วันอังคาร, พฤษภาคม 24, 2559

วันอังคาร, พฤษภาคม 24, 2559
จำนวนผู้เยี่ยมชมหน้านี้                  

                   ตั้งแต่ข้าพเข้าเริ่มเข้ารับราชการ สิ่งหนึ่งที่ได้รับการบอกเล่ามาตลอดตอนสิ่งซื้อวัสดุ หรือครุภัณฑ์ต่างๆ ว่าเราจะต้องซื้อในราคาที่แพงกว่าราคาที่ร้านค้าติดไว้ที่ป้ายสำหรับขายให้กับประชาชนทั่วไป เนื่องจากว่าเราต้องซื้อเขาในระบบเงินเชื่อ กว่าจะทำเรื่องเบิกเงินให้ร้านค้าได้ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 - 3 เดือน ดังนั้นเราจะต้องบวกดอกเบี้ยให้กับร้านค้าเพิ่มจากราคาที่ติดป้ายไว้ อย่างน้อยๆ 20 %
เช่น ของติดป้ายไว้ 100 หากราชการซื้อต้องขอซื้อในราคา 120 บาท เป็นต้น

                   จนสมัยผู้บริหารท่านหนึ่งข้าพเจ้าได้มีโอกาสทำหน้าที่หัวหน้าพัสดุ ข้าพเจ้าจึงได้ไปติดต่อซื้อของตามร้านต่างๆ ปรากฎว่าร้านถามว่าจะเอาเปอร์เซนต์หรือเปล่า ข้าพเจ้าบอกว่าไม่เอา ปรากฎว่าทุกร้านสามารถซื้อของได้ลดจากราคาหน้าร้านอีก 20 %  แม้จะจ่ายเงินหลังจากซื้อของอีกประมาณ 1 เดือน ไม่เห็นต้องบวกดอกเบี้ยให้กับร้านค้าเลย

                  และในปีนั้นวิทยาลัยได้รับจัดสรรให้ซื้อครุภัณฑ์ในราคา 140,000.- บาท ซึ่งในขณะนั้นการซื้อครุภัณฑ์ในราคาที่เกิน 100, 000.- บาท ต้องทำเรื่องขออนุมัติกรม ปรากฎว่าข้าพเจ้าใช้วิธีการในการต่อรองทุกรูปแบบ จนสามารถซื้อได้ในราคา 125,000.- บาท ทำเรื่องขออนุมัติกรม ปรากฎว่าทางกรมโทรสอบถามมาว่าทำไมถึงซื้อได้ในราคา 125,000.- บาท เพราะสถานศึกษาอื่น ขออนุมัติมาในราคา เกือนเต็มงบประมาณแทบทั้งนั้น ทั้งๆ ที่เป็นของเหมือนกันทุกอย่าง ข้าพเจ้าก็บอกว่า ก็ต่อราคาซิของซื้อของขาย (สงสัยเหมือนกันว่าทำไมต้องโทรมาสอบถามคนซื้อถูก น่าจะโทรไปถามคนซื้อแพง)

                 และในปีนี้เช่นกันที่ได้รับสิ่งก่อสร้างราคา 10 ล้านบาท ข้าพเจ้าก็ได้จัดการประมูลราคา ปรากฎว่าสามารถประมูลได้ในราคาประมาณ 9.1 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทที่ไม่ยอมฮั้ว หนีมายื่นซองก่อนหมดเวลาเพียงนิดเดียว แต่ขณะข้าพเจ้ารับซองก็มีเสียงตะโกนว่าห้ามรับซองนะอาจารย์ ข้าพเจ้าก็ตอบว่า หากเวลายังไม่หมดใครก็ห้ามผมรับซองไม่ได้ ทำให้งานนี้ฮั้วแตก แต่ขณะนั้นมีแต่คนพูดว่าราคาแค่นี้ทำไม่ได้หรอกเพราะขาดทุน เดี๋ยวผู้รับเหมาก็ต้องทิ้งงาน แต่ปรากฎว่าอาคารก็สร้างจนเสร็จ อาคารเสร็จแล้วก็พูดกันอีกว่าเดี๋ยวก็พังเพราะทำไม่ดี แต่ผมก็เห็นอยู่มาจนบัดนี้

              เสียดายจริงๆ เสียดายที่ผมเป็นพัสดุได้เพียง 1 ปี ก็ต้องออก สาเหตุมาจากซื้อของถูกมากเกินไป  นี่แหละหนอระบบราชการ